ถ้าจะให้วิเคราะห์เข้าไปดูโครงสร้างทุนนิยมไทย อาจแยกส่วนออกมาได้ดังนี้
ระบบทุนนิยมเป็นระบบเศรษฐกิจที่บุคคลทั่วไปเป็นเจ้าของและควบคุมธุรกิจ ทรัพย์สิน และทุน นั่นคือ “วิธีการผลิต” ปริมาณสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นอยู่กับระบบของ “ อุปสงค์และอุปทาน ” ซึ่งส่งเสริมให้ธุรกิจผลิตสินค้าที่มีคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพและราคาไม่แพงที่สุด
การจะรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์โดยรวมของสังคมที่ดีขึ้นได้นั้น การอาศัยแต่แนวคิดแบบทุนนิยมดั้งเดิมจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป ผู้บริหารของบริษัท/ธุรกิจสมัยเองก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับประเด็นของสังคมเหล่านี้ และในการเริ่มต้นเพื่อให้เกิดสังคมที่ดีขึ้นได้นั้นโดยการนำแนวคิดแบบทุนนิยมแบบผู้มีส่วนได้เสียมาใช้แบบรูปธรรมนั้นอาจดำเนินการโดยวิธีการต่างๆ ดังนี้
“ระบอบประยุทธ์: การสร้างรัฐทหารและทุนนิยมแบบช่วงชั้น.”
มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่าคลาสการทำงานไม่ได้ตั้งชื่อเพียงเพราะมันเป็นภาคตัวแทนของพนักงาน แต่ยังเพราะพวกเขาเป็นคนที่ได้รับการชำระเงินต่ำสุด.
วิวัฒนาการมาในยุโรประหว่างยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในความวุ่นวายทางการเมืองซึ่งอนุญาตให้มีการกระจายอำนาจของนโยบายเศรษฐกิจ.
มีโอกาสมากที่คนคนเดียวกันจะซื้อรุ่นต่อไปของแบรนด์เดียวกันโดยนำเสนอด้วยคุณสมบัติที่ดีกว่าผู้บริโภครายอื่น.
Analytical cookies are utilized to understand how website visitors communicate with the website. These cookies assistance provide info on metrics the number of guests, bounce price, site visitors resource, etcetera.
การละเมิดในตลาดแรงงาน: นายจ้างสามารถเอารัดเอาเปรียบคนงานได้
นายกฯ 'วงศ์ชินวัตร' เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ ทุนนิยม วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด
แนวคิดดังกล่าวได้รับการยอมรับและขยายไปสู่ประเทศยุโรปเหนือและประเทศยุโรปตะวันตก เช่น สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และเยอรมนี เป็นต้น แนวคิดเช่นนี้เองทำให้เกิดระบบไตรภาคีของการร่วมกันระหว่างบริษัท ลูกจ้าง และรัฐบาล ซึ่งทำให้เกิดรัฐสวัสดิการที่บริษัทและลูกจ้างร่วมกันจ่ายเงินสมทบเพื่อให้เกิดสวัสดิการให้กับลูกจ้าง
การแข่งขันในตลาดเสรีส่งเสริมประสิทธิภาพและนวัตกรรม
ในทางตรงกันข้ามกับทุนนิยม ความกังวลหลักของลัทธิสังคมนิยมคือการกำจัดชนชั้นทางเศรษฐกิจและสังคมที่ "รวย" และ "ยากจน" โดยทำให้แน่ใจว่ามีการกระจายความมั่งคั่งอย่างเท่าเทียมกันในหมู่ประชาชน เพื่อให้บรรลุสิ่งนี้ รัฐบาลสังคมนิยมควบคุมตลาดแรงงาน ซึ่งบางครั้งอาจถึงระดับการเป็นนายจ้างหลัก สิ่งนี้ทำให้รัฐบาลสามารถรับประกันการจ้างงานได้อย่างเต็มที่แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ
ทุนนิยมช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง